นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

       

เงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 

  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “สนง.พมจ.บร.” หรือ “หน่วยงาน”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นเกี่ยวกับตัวท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า สนง.พมจ.บร. มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

          สนง.พมจ.บร. ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจเงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) เนื่องจากนโยบายนี้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงถึงรายละเอียดวิธีการที่หน่วยงานปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เป็นต้น โดยมีเนื้อสาระดังต่อไปนี้

 

  • ข้อมูลส่วนบุคคล

          “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

 

  • ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ

          หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย หน่วยงานอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยอาจจำเป็นต้องให้ผู้ปกครอง หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ของท่านตามแต่กรณี ให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้

 

  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

          การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบ ด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูล ส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ภายใต้วัตถุประสงค์ของหน่วยงานเท่านั้น

          ทั้งนี้ หน่วยงานจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอม ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของหน่วยงาน หน่วยงานอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งเกี่ยวกับความสนใจและบริการที่ท่านใช้ ซึ่งอาจประกอบด้วยเรื่อง ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด สถานภาพสมรส ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) หมายเลขโทรศัพท์ บัตรเครดิต รายได้ งบประมาณ เหตุผลในการซื้อหรือเลือกที่อยู่ วัตถุประสงค์การสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ หรือข้อมูลอื่นใด ที่จะเป็นประโยชน์ในการให้บริการ

          ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น หน่วยงานจะขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่ เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงาน หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงาน เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ใน การดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

 

  • มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและคุณภาพของข้อมูล

          หน่วยงานตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หน่วยงานจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มี การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต

          ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของหน่วยงาน ในการคุ้มครองและป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้น หน่วยงานได้ใช้ระบบ Secure Socket Layer (SSL) ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่รับส่งผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อป้องกันผู้ที่แอบดักจับข้อมูลขณะที่มีการส่งผ่านเครือข่าย Internet และใช้ Firewall เทคโนโลยีนี้ยังใช้สำหรับการยืนยันความมีอยู่จริงของเว็บไซต์อีกด้วย หน่วยงานจะมีการปรับปรุงและทดสอบระบบเทคโนโลยีของหน่วยงานอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลมีความปลอดภัยสูงสุดและน่าเชื่อถือ

          ในการนี้ หน่วยงานสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเครื่องมือการรักษาความปลอดภัย หน่วยงานเห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลอยู่แล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่หน่วยงานได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของท่านได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของหน่วยงานเท่านั้น และหน่วยงานจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการคุ้มครองและรักษาความลับของผู้ร้องเรียนเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องเรียน และผู้ให้ข้อมูลที่กระทำโดยเจตนาสุจริต หน่วยงานจะปกปิดชื่อ ที่อยู่ หรือข้อมูลใด ๆ ที่สามารถระบุ ตัวผู้ร้องเรียนหรือผู้ให้ข้อมูลได้ และเก็บรักษาข้อมูลของ ผู้ร้องเรียนและผู้ให้ข้อมูลไว้เป็นความลับ โดยจำกัดเฉพาะผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเท่านั้นที่จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

 

  • วัตถุประสงค์ในการรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคล

          หน่วยงานรวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์ในการให้บริการแก่ท่าน รวมถึงบริการที่ท่านสนใจ หรือการจัดทำบริการทางดิจิทัล หรือเพื่อประโยชน์ในการจัดทำฐานข้อมูลและใช้ข้อมูลเพื่อเสนอสิทธิประโยชน์ตามความสนใจของท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ที่ไม่ต้องห้าม ตามกฎหมาย และ/หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับกับผู้ให้บริการ ทั้งขณะนี้และ ภายภาคหน้า รวมทั้งยินยอมให้ผู้ให้บริการส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่หน่วยงาน กลุ่มธุรกิจของผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการภายนอก ผู้ประมวลผลข้อมูล ผู้สนใจจะเข้ารับโอนสิทธิ ผู้รับโอนสิทธิ หน่วยงาน/ องค์กร/ นิติบุคคลใด ๆ ที่มีสัญญาอยู่กับผู้ให้บริการหรือมีความสัมพันธ์ด้วย และ/หรือผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยยินยอมให้ผู้ให้บริการ ส่ง โอน และ/หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และหน่วยงานจะจัดเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์เหล่านั้นเท่านั้นหากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หน่วยงานจะประกาศให้ท่านทราบ

 

  • ข้อจำกัดในการใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

          หน่วยงานจะใช้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามความยินยอมของท่านโดยจะต้องเป็น การใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของหน่วยงานเท่านั้น หน่วยงานจะกำกับดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่ เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงาน หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่หน่วยงาน เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม หน่วยงานอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่หน่วยงานกำหนด

 

  • การวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้คุ้กกี้ (Cookies)

          หน่วยงานอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลที่ได้มาหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์และบนอุปกรณ์อื่นใดที่ถูกเชื่อมต่อและเข้าใช้งานของผู้ใช้บริการ ในการนี้ หน่วยงานอาจใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือวิเคราะห์จาก Cookies หรือบริการของบุคคลภายนอก เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของหน่วยงาน คุ้กกี้ (Cookies) คือ ไฟล์ขนาดเล็กที่ใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ของเจ้าของข้อมูล เพื่อเก็บข้อมูลในการเข้าเยี่ยมชม หรือใช้งานเว็บไซต์ โดยประเมิน ผู้เข้าชมและตรวจสอบความถี่ในการเข้าชมเว็บไซต์เพื่อนำมาปรับปรุงการให้ข้อมูลและบริการที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการในการไม่ต้องกรอกข้อมูลประจำตัวทุกครั้งที่มีการลงชื่อเข้าใช้งาน เจ้าของข้อมูลสามารถปรับแต่งเบราว์เซอร์เพื่อยอมรับคุกกี้ทั้งหมด ปฏิเสธคุกกี้ทั้งหมด หรือแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลทราบเมื่อมีการส่งคุ้กกี้ อย่างไรก็ตามการปิดใช้งานคุ้กกี้อาจจะส่งผลต่อการใช้บริการเหล่านั้นทั้งหมดหรือบางส่วน อนึ่ง หน่วยงานฯ อาจใช้เทคโนโลยี Flash Cookie ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้

 

  • สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

          ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่หน่วยงานกำหนด หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หน่วยงานอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล ท่านสามารถขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้ ท่านสามารถขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลท่าน เว้นแต่ เป็นกรณีที่หน่วยงานต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

 

  • การเปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการ แนวปฏิบัติ และนโยบายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

          หน่วยงานจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นการภายใน เฉพาะแก่ผู้ที่มีหน้าที่ใช้ข้อมูล เพื่อการช่วยเหลือ หรือเพื่อให้บริการตามคำขอของผู้ใช้บริการ อย่างไรก็ดี อาจมีกรณีที่หน่วยงานจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา ทั้งนี้ เพื่อให้การเปิดเผยข้อมูลนั้นอยู่ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น

 

  • เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

          หน่วยงานได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ หน่วยงานได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

  • ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

          หน่วยงานจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลของท่าน สนง.พมจ.บร. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษา ถึงที่สุด

 

  • ช่องทางการติดต่อหน่วยงาน

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ที่อยู่: ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ (หลังใหม่) ชั้น 1 เลขที่ 1159 เขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 31000

โทรศัพท์ : 04 466 6550 – 1

โทรสาร : 04 466 6550

E-mail : buriram@m-society.go.th


Share:



การยื่นคำขอบัตรประจำตัวคนพิการแบบออนไลน์ ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019

             

ขั้นตอนการยื่นคำขอบัตรประจำตัวคนพิการแบบออนไลน์ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19)​

 

     จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดทำแนวทางการออกบัตรประจำตัวคนพิการในช่วงวิดฤตการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 19) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการ และลดขั้นตอนในการขอมีบัตรประตัวคนพิการ รองรับมาตรการป้องกันการดูแลสุขภาพของคนพิการในช่วงแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 (COVID 19) และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1. เตรียมข้อมูล

1.1 ประวัติคนพิการ
1.2 ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ของคนพิการ
1.3 ที่อยู่ปัจจุบัน ของคนพิการ
1.4 การศึกษา ของคนพิการ
1.5 อาชีพ ของคนพิการ
1.6 รายได้ จำนวนบุคคลที่คนพิการต้องอุปการะ
1.7 ประเภทความพิการ
1.8 ข้อมูลผู้ดูแลคนพิการ (ข้อมูล่วนตัวและ ที่อยู่ปัจจุบัน)
1.9 GPS พิกัดที่ตั้งของบ้านที่อยู่ปัจจุบัน  โดยให้ตรวจสอบจาก โปรแกรม กุเกิ้ล แม็พ  (Google Map)
1.10 รูปภาพหลักฐานที่ใช้ในการยื่นขอทำบัตรคนพิการ โดยให้ใช้กล้องของโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอกสารทุกฉบับ ซึ่งมีหลักฐานที่จะต้องส่งดังนี้  

 

ขั้นตอนที่ 2  กรอกแบบคำขอมีบัตรประตัวคนพิการ และกรอกข้อมูลรายละเอียดทั้งข้อมูลคนพิการ และข้อมูลผู้ดูแลคนพิการ (ถ้ามี) ตามแบบฟอร์มให้ครบถ้วน   โดยการใช้กล้องในมือถือ ส่องที่รูป QR Code นี้  

ขั้นตอนที่ 3  แสดงหลักฐานประกอบการขอ 

ขั้นตอนที่ 4 เจ้าหน้าที่รับคำขอตรวจสอบเอกสารและยืนยันความถูกต้องของเอกสาร หากไม่ครบถ้วนจะแจ้งให้ส่งเพิ่มเติมผ่านทางไลน์กลุ่ม ชื่อ  ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดบุรีรัมย์ และจะส่งข้อความตอบกลับไปให้ท่านว่า  หลักฐานครบถ้วนหรือไม่  แล้วเจ้าหน้าที่จะนัดหมายให้มารับบัตรประจำตัวคนพิการ ภายใน 3 วันทำการ หลังจากได้รับหลักฐานครบถ้วน

ขั้นตอนที่ 5 รับบัตรคนพิการ ในวันที่นัดหมายมารับบัตรประจำตัวคนพิการ ให้ผู้ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการ นำเอกสารหลักฐานการขอมีบัตรประตำตัวคนพิการข้างต้น มาให้เจ้าหน้าที่ที่รับคำขอตรวจสอบอีกครั้ง ณ ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ท่านลงลายมือชื่อในแบบคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการ ก่อนที่จะรับบัตรประตัวตัวคนพิการ ต่อไป

ทั้งนี้การกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14

หมายเหตุ   


Share:



พม.บุรีรัมย์ จัดทำอาหารเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙)

            นางนัฏญา  จิตรเกาะ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ (One Home) ร่วมจัดทำอาหารเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙) ณ วัดทุ่งโพธิ์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ มาขอรับอาหาร รวมจำนวน ๔๐๐ ราย รวมทั้งแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้กับผู้ได้รับผลกระทบฯ จำนวน ๒๐๐ ชิ้น และประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดบุรีรัมย์


Share:



พม.บุรีรัมย์ จัดทำอาหารเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙)

นางนัฏญา จิตรเกาะ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดบุรีรัมย์ (One Home) ร่วมจัดทำอาหารเพื่อให้บริการแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – ๑๙) ณ วัดทุ่งโพธิ์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ มาขอรับอาหาร รวมจำนวน ๔๐๐ ราย รวมทั้งแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้กับผู้ได้รับผลกระทบฯ จำนวน ๒๐๐ ชิ้น และประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดบุรีรัมย์


Share:



Social media & sharing icons powered by UltimatelySocial